วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

ตะลึงพบ--พระสุสานพระเจ้าตากสินในเมืองจีน

ขอขอบคุณ ท่านมนตรี วงศ์เกษม รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
ภาพ: แผ่นป้ายหินจารึกไว้ว่า
"สุสานของ 'แต้อ๊วง' (สมเด็จพระเจ้าตากสินฮ่องทางตอนใต้
ในแผ่นดินพระเจ้าเฉียนหลงฮ่องเต้)
ทำการบูรณะซ่อมแซมใหม่
ในปี ค.ศ. ๑๙๘๕ ฤดูใบไม้ผลิ"

ซุ้มประตูทางเข้าพระสุสานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เมืองเถ่งไฮ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน

เถ่งไฮ่เป็นอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองแต้จิ๋ว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนมีประชากรประมาณ
๗๑๐,๐๐๐ คน ปัจจุบันเถ่งไฮ่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญแห่งหนึ่ง ตุ๊กตาต่างๆ
จากบริษัทผลิตของเล่นชื่อดังของโลกไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาบาร์บี้หรือตุ๊กตาของวอลต์ดีสนีย์ที่ส่งไปขายทั่วโลกผลิตมาจากโรงงานในอำเภอเถ่งไฮ่แทบทั้งสิ้น
คนไทยส่วนใหญ่อาจไม่รู้จักอำเภอเล็กๆ อย่างเถ่งไฮ่
แต่สำหรับลูกหลานชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไทย น่าจะคุ้นหูกับชื่อนี้ดี

คนจีนที่อพยพข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาทำมาหากินบนแผ่นดินไทยในอดีต
ส่วนใหญ่มาจากเมืองแต้จิ๋ว โดยเฉพาะจากอำเภอเถ่งไฮ่ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล
การเดินทางข้ามมาเมืองไทยสะดวกกว่า ด้วยเหตุนี้คนจีน
ในเมืองไทยส่วนใหญ่จึงพูดภาษาแต้จิ๋ว
บุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนนับตั้งแต่ ปรีดี พนมยงค์ ป๋วย
อึ๊งภากรณ์ รวมถึงคนในตระกูลรัตตกุล ตระกูลหวั่งหลี ตระกูลเจียรวนนท์
ก็ล้วนมีบรรพบุรุษที่อพยพมาจากอำเภอเถ่งไฮ่

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือที่เรามักเรียกกันว่า พระเจ้าตาก
ก็ทรงมีเชื้อสายแต้จิ๋ว พระบิดาของพระองค์เป็นชาวแต้จิ๋ว เกิดในตระกูลแต้ ชื่อนายแต้เจียว
อพยพจากอำเภอเถ่งไฮ่เข้ามาค้าขายในเมืองไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนพระมารดาเป็นคนไทยชื่อนางนกเอี้ยง มีอาชีพค้าขาย พระ
เจ้าตากทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๒๗๗
(หนังสือบางเล่มกล่าวว่าทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๒๗๗)
มีเรื่องเล่าว่าเมื่อครั้งยัง
ทรงพระเยาว์ พระเจ้าตากทรงได้กลับไปศึกษาที่ประเทศจีนระยะหนึ่งด้วย

พระสุสานด้านในมีแผ่นหินจารึกพระนามแปลเป็นไทยว่า
"สุสานในพระเจ้าตากสินแห่งราชตระกูลแต้จิ๋วสร้างในพระเจ้าแผ่นดินจีนเฉียนหลงฮ่องเต้พ.ศ.2339"

นายนิ้ม แซ่ตั้ง วัย ๗๙ ปี
ชาวจีนซึ่งเกิดในอำเภอเถ่งไฮ่และอพยพมาตั้งรกรากในเมืองไทยเมื่อ ๖๐ปีก่อน เล่าให้ฟังว่า

สมัยที่ผมอยู่เมืองจีน คนเถ่งไฮ่รู้จักเมืองไทยดีเพราะเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วที่คนเถ่งไฮ่เดินทางมา
ค้าขายที่เมืองไทย ที่มาตั้งรกรากอยู่เมืองไทยเลยก็มีมากความสัมพันธ์ไทย-จีนนั้นแน่นแฟ้นมาก ถึงกับมีคำไทยที่กลายเป็นภาษาแต้จิ๋ว คือคำว่า ตลาดชาวแต้จิ๋วเอาไปใช้โดยออกเสียงว่า ตั๊กลัก เรื่อง
ราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย คนจีนที่นั่นก็รับรู้กันโดยตลอด

คนเถ่งไฮ่รู้จักและรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าตากดี เขาเรียกกันว่า?แต้อ๊วง? แปลว่า พระเจ้าแผ่น
ดินตระกูลแต้ บ้านเกิดของผมก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านของท่าน จำได้ว่าตอนเด็กๆ
เคยไปเที่ยวบ้านหลังหนึ่งที่เก่าทรุดโทรมมาก เชื่อกันว่าเป็นบ้านเกิดของพระเจ้าตาก
ผมยังเคยได้ยินเรื่องเล่าว่าเมื่อ?แต้อ๊วง? เกิด พ่อของท่านก็พาท่านกลับมาเรียนภาษาที่เมืองจีน จนอายุได้๑๐ ขวบจึงส่งมาอยู่เมืองไทย

นายนิ้มกล่าวว่าคนจีนที่อพยพมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองนิยมส่งลูกหลานกลับมาเรียนหนังสือที่บ้านเกิด
เพราะต้องการให้ลูกหลานได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีน และที่สำคัญคือ
เมื่อกลับมาเมืองจีนยังมีครอบครัวและญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดคอยดูแล
ซึ่งต่างจากเมืองไทยที่อาจต้องใช้ชีวิตตามลำพัง จากการ
ศึกษาประวัติพระบิดาของพระเจ้าตาก ก็พบว่าไม่มีญาติพี่น้องอยู่เมืองไทยมากนัก

บริเวณแหล่งดูดทรายแห่งหนึ่งในอำเภอเถ่งไฮ่ มีฮวงซุ้ยหรือสุสานเล็กๆ
แห่งหนึ่ง ทางเข้าทำเป็นซุ้มขนาดใหญ่ สุสานแห่งนี้เป็นสุสานเก่าแก่
สร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเฉียนหลงฮ่องเต้ (พ.ศ.๒๒๗๘-๒๓๓๙) มีป้ายหินจารึกไว้ว่า
"สุสานของ แต้อ๊วง  ทำการบูรณะซ่อมแซมใหม่ในปี ค.ศ. ๑๙๘๕    ฤดูใบไม้ผลิ"

คนเถ่งไฮ่เชื่อกันว่า หลังจากที่พระเจ้าตากสิ้นพระชนม์ได้ไม่นาน
บรรดาญาติพี่น้องได้นำฉลองพระองค์กลับมายังบ้านเกิด และฝังไว้ที่สุสานแห่งนี้เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ

คนเถ่งไฮ่ภูมิใจใน แต้อ๊วง มาก
ว่าเป็นคนบ้านเราที่มีวาสนาเป็นถึงพระเจ้าแผ่นดินของประเทศไทย
และมีความกล้าหาญยิ่ง เสี่ยงชีวิตไปรบกับพม่าเพื่อกอบกู้ชาติไทย นายนิ้มกล่าว
บริเวณสุสานยังมีป้ายหินอีกแผ่นจารึกไว้ว่าสุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังฉลองพระองค์ของ แต้อ๊วง ที่นำมาจากเมืองไทย ห้ามผู้ใดทำลายเด็ดขาด ลงชื่อโดยรัฐบาลท้องถิ่นแห่งอำเภอเถ่งไฮ่

ปัจจุบัน สุสานแห่งนี้ยังมีผู้นำดอกไม้ธูปเทียนมาแสดงความคารวะอยู่เป็นประจำ
โดยเฉพาะจากบรรดาลูกหลานคนจีนจากเมืองไทยที่มีโอกาสไปเยี่ยมญาติในประเทศจีน

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ผู้ทรงคุณอันประเสริฐต่อแผ่นดินไทย
พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ทรงมีพระราชประวัติหายไปกับหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย

สิ่งที่ท่านจะได้เห็นนี้...

คือพระสุสานพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในต่างแดน

คำถาม...ที่ว่า...?

จะเป็นแค่สุสานเก็บฉลองพระองค์ หรือ พระบรมสรีระของพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่

ความลับที่เก็บซ่อนมาเกือบ 230 ปียังคงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=565206

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น